ดาวน์โหลดได้ที่ https://bit.ly/3jNj6Mz
นักเรียนที่ขาดโอกาสทางการศึกษามีอยู่จำนวนมาก การเข้าถึงแหล่งสนับสนุนเพียงไม่กี่หน่วยงาน ไม่อาจครอบคลุมทุกความต้องการที่มีความหลากหลายได้ การสร้างและสานเครือข่ายพันธมิตรทางการศึกษาให้แข็งแรงไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหน่วยงานที่มอบทุนการศึกษา นับว่าเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญช่วยเสริมสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาได้ วันนี้ แอดมินส่องทางทุน by กสศ. จึงขอแชร์ 6 วิธีสร้างและสานเครือข่ายทุนให้ทรงพลัง จะมีแนวทางอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันได้เลยค่ะ
1. การรู้ปัญหา: การรู้และเข้าใจปัญหาภายใน คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางก่อนการสร้างความสัมพันธ์กับเครือข่าย เพื่อให้สถานศึกษาสามารถระบุปัญหาหรือความต้องการเฉพาะในการขอรับการสนับสนุนของตนเองได้ รวมทั้งทำให้รู้ว่าจะต้องทำงานกับบุคคล หน่วยงาน หรือองค์กรใดบ้าง เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างเครือข่าย ส่งผลให้เกิดการแก้ปัญหาได้ตรงจุด ทำให้การขอรับการสนับสนุนจากแหล่งทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเริ่มจากการจัดตั้งการประชุมภายในสถานศึกษา เพื่อปรึกษาหารือและถกถึงประเด็นปัญหาที่มีอยู่ภายในโรงเรียนร่วมกัน พร้อมระบุให้ชัดเจน ในด้านที่ต้องการการสนับสนุนเป็นพิเศษ
2. การติดต่อเครือข่าย: เมื่อทางสถานศึกษารู้ถึงปัญหาที่ต้องการได้รับการสนับสนุน รวมทั้งรู้จักเครือข่ายที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหานั้น ๆ ทั้งจากแหล่งทุนภายในพื้นที่และนอกพื้นที่ ส่งผลให้สามารถตัดสินใจในการเลือกแหล่งทุนการศึกษาหรือเครือข่ายที่จะขอความร่วมมือ จากนั้นจึงเริ่มต้นด้วยการติดต่อแหล่งทุนและเครือข่ายผ่านช่องทางการติดต่อต่าง ๆ เพื่อเป็นการทำความรู้จักกันเบื้องต้น โดยเริ่มจากภายในพื้นที่ไปสู่นอกพื้นที่ เช่น องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.), กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน, วัด, กิจการห้างร้านที่มีความประสงค์ในการสนับสนุนการศึกษา เป็นต้น
3. การจัดกิจกรรมเพื่อสานสัมพันธ์: หลังจากสถานศึกษาได้ทำความรู้จักกับเครือข่ายและแหล่งทุนเบื้องต้นแล้วนั้น การสร้างความสัมพันธ์ให้เป็นไปอย่างราบรื่นและต่อเนื่องมากขึ้นนั้น คือ การจัดกิจกรรมส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน เพื่อเป็นการสร้างและสานความสัมพันธ์อันดีต่อกันในระยะยาว เช่น การเปิดเวทีสำหรับแลกเปลี่ยนพูดคุย ในการรับทราบปัญหา สร้างความเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย และหาจุดในการทำงานร่วมกัน
4. การประสานขอความร่วมมือ: การทำงานร่วมกันระหว่างสถานศึกษาและเครือข่ายทั้งภายในพื้นที่และภายนอกพื้นที่ คือการรวมพลังกันของทุกภาคส่วนที่สามารถเข้ามามีบทบาทในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาร่วมกัน การประสานขอความร่วมมือกับหน่วยงานหรือองค์กรที่มีความยินดีในการสนับสนุน ส่งผลให้เกิดการสนับสนุนที่หลากหลาย เป็นการสร้างโอกาสให้นักเรียนสามารถเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น เมื่อมีความรู้ ทักษะความสามารถติดตัว ก็มีโอกาสหยุดวงจรความยากจนได้ เช่น การส่งหนังสือเพื่อทำเรื่องขอสนับสนุนทุนการศึกษา, การเปิดเวทีเพื่อเสนอวิธีในการสนับสนุนของแต่ละหน่วยงาน เป็นต้น
5. การแบ่งปันข้อมูลผ่านสื่อโซเชียล: หลังจากสถานศึกษาและเครือข่ายได้ทำงานร่วมกัน การรักษาความสัมพันธ์ระหว่างกันก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการสร้างความร่วมมือในระยะยาว เพื่อให้การสนับสนุนนักเรียนเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยเครือข่ายสามารถแลกเปลี่ยนแบ่งปันข้อมูลระหว่างกันผ่านสื่อโซเชียล ทั้งในรูปแบบส่วนตัวและแบบกลุ่ม ทำให้ติดตามข่าวสารได้อย่างสม่ำเสมอ และเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างกันให้เหนียวแน่นมากขึ้น เช่น แชทส่วนตัว, เฟซบุ๊กกรุ๊ป, ไลน์กรุ๊ป เป็นต้น
6. การประชาสัมพันธ์: ในการจัดทำกิจกรรมแต่ละครั้ง การประชาสัมพันธ์ เป็นสิ่งจำเป็นในการสื่อสารสู่ภายนอก อีกทั้งยังสามารถเป็นฐานข้อมูลให้กับสถานศึกษาและเครือข่ายอีกด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับหน่วยงานและองค์กร ส่งผลให้เกิดการขยายเครือข่ายต่อไปมากยิ่งขึ้น โดยสามารถทำได้ทั้งการจัดทำโปสเตอร์โพสต์ลงสื่อโซเชียลหรือติดบอร์ดประชาสัมพันธ์หน้าโรงเรียน เป็นต้น
การสร้างความร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและเสริมให้เกิดเป็นเครือข่ายทางการศึกษาที่เข้มแข็ง มีส่วนช่วยให้นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาส ได้รับโอกาสทางการศึกษาได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น แอดมินส่องทางทุน by กสศ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เทคนิคทั้ง 6 นี้ จะมีส่วนช่วยสร้างและสานความสัมพันธ์เครือข่ายทางการศึกษา ให้โรงเรียนและนักเรียนของครูเข้าถึงต้นทุนทางการศึกษาได้มากขึ้นนะคะ
คุณครูของ กสศ. ติดตามข้อมูลทุนการศึกษาอื่น ๆ นอกเหนือทุนของเราได้ที่
เฟซบุ๊กกรุ๊ป “ส่องทางทุน by กสศ.”